ติดแก๊ส lpg ถังโดนัท หรือ ถังแคปซูล แบบไหนดี? น้ำหนักถังเท่าไหร่? วิ่งได้กี่กิโล? | หงษ์ทองแก๊ส

ติดแก๊ส lpg เลือกถังแก๊สแบบไหนดี? ถังโดนัท หรือ ถังแคปซูล ถังแบบไหนเติมได้เยอะกว่า ถังแบบไหนหนักกว่า แล้วต้องเลือกอย่างไรถึงจะประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด?

รถติดแก๊ส LPG ติดตั้งถังแก๊สแบบไหนดี ระหว่าง ถังโดนัท (Donut Tank/Toroidal Tank) หรือ ถังแคปซูล  (Cylinder Tank) คำถามยอดฮิตที่ยังมีคนสงสัย นอกจากนั้น ยังมีประเด็นเรื่องความจุในการเติมแก๊ส น้ำหนักของถัง ความปลอดภัย พื้นที่ใช้สอยท้ายรถ และข้อจำกัดทางเทคนิคที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้การติดตั้งทั้งประหยัด คุ้มค่า และใช้งานได้ยาวนาน ดังนั้น บทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงความแตกต่าง พร้อมคำแนะนำในการเลือกถังแก๊สที่เหมาะสมกับรถแต่ละประเภทกันครับ

ความแตกต่างระหว่าง ถังโดนัท vs ถังแคปซูล

🔹ถังโดนัท🔹มีรูปทรงกลมคล้ายโดนัท มีรูตรงกลาง ส่วนการติดตั้งมี 2 รูปแบบ

    1.) ถังโดนัทวางบน – เป็นการติดตั้งในช่องเก็บยางอะไหล่ใต้กระโปรงท้ายรถ ข้อดีคือประหยัดพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง และช่วยกระจายน้ำหนักลงบนเพลาล้อหลังดีกว่าถังแคปซูลที่วางอยู่ในกระโปรงท้าย (บางกรณี) 

    2.) ถังโดนัทวางล่าง (ใต้ท้องรถ) – เป็นการติดตั้งใต้ท้องรถ เหมาะกับรถบางรุ่นที่มีพื้นที่เพียงพอ โดยจำเป็นต้องมีการหุ้มถังอย่างดี เพื่อป้องกันน้ำ/สนิม และต้องมีระยะห่างจากกันชนท้ายตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัย ข้อดีคือนอกจากไม่เสียพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถแล้ว ด้วยเทคนิดเฉพาะของหงษ์ทองแก๊ส ยังช่วยให้เติมแก๊สได้เพิ่มขึ้น ง่ายต่อการเข้ารับการตรวจสภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี (อ่านเพิ่มเติมคลิก)

🔹ถังแคปซูล🔹 มีรูปทรงกระบอกยาว คล้ายแคปซูลยา

ส่วนใหญ่ติดตั้งในพื้นที่กระโปรงท้ายรถยนต์ ไม่เสียพื้นที่ยางอะไหล่ แต่เสียพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง หรือในบางรุ่นอาจติดตั้งใต้ท้องรถได้ (ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ตามที่กฎหมายกำหนด) ราคาถูกกว่าถังโดนัทเล็กน้อย ส่วนเรื่องน้ำหนัก ถังแคปซูลบางขนาดอาจมีน้ำหนักมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อการทรงตัวของรถเล็กน้อย หากติดตั้งไม่เหมาะสม

ถังแบบไหนเติมแก๊สได้เยอะกว่า?

เรื่องความจุในการเติมแก๊ส โดยปกติแล้วจะเติมได้ประมาณ 80% ของความจุถัง เพื่อเผื่อพื้นที่สำหรับการขยายตัวของแก๊สเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เช่น ถังขนาด 42 ลิตร อาจเติมแก๊สได้จริง เหลือประมาณ 33.6 ลิตร แต่อาจมีบางกรณีที่สามารถทำให้เติมแก๊สได้มากกว่า 80% ขึ้นอยู่กับเทคนิคของอู่ที่ติดตั้ง 

อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบขนาดถังที่เท่ากัน คนส่วนใจจะเข้าใจว่าถังแคปซูลเติมแก๊สได้เยอะกว่า เพราะความจุมากกว่า แต่ในความเป็นจริง ถังโดนัทคุณภาพดี ได้มาตรฐาน มีขนาดให้เลือกหลากหลาย และสามารถจุแก๊สได้เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งการขับขี่ในเมืองหรือเดินทางไกล แถมยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยในรถมากกว่า และได้รับความนิยมติดตั้งมากกว่าในปัจจุบัน 

ดังนั้น คำแนะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่า ใช้รถเยอะ ไม่อยากแวะเติมแก๊สบ่อย ควรเลือกติดตั้งเป็น ถังโดนัท ที่มีขนาดใหญ่/ความจุสูงไว้ก่อนจะคุ้มกว่า ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าปกติรถคุณวิ่งได้ระยะทาง อยู่ที่ประมาณ 10 กม./ลิตร เติมแก๊สสัปดาห์ละ 1 ถัง ถ้าขยับเป็นถังขนาดใหญ่ขึ้นสัก 10 ลิตร เช่น จากถังโดนัท 42 ขยับเป็น 52 ลิตร จะทำให้ระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้นอีกประมาณ 100 กม. โดยเราสามารถดีไซน์ให้ใส่ได้ใหญ่ที่สุด เหมาะกับพื้นที่ของรถแต่ละรุ่น และติดตั้งด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมาย ทางที่ดีลองปรึกษาเจ้าหน้าที่หงษ์ทองแก๊ส เพื่อให้คำแนะนำขนาดถังแก๊สที่เหมาะกับรุ่นรถของท่านได้ครับ  

ถังแบบไหนหนักกว่า มีผลกับช่วงล่างอย่างไร?

เรื่องน้ำหนักของถังแก๊ส LPG เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล เพราะมีผลต่อการทรงตัวของรถและการสึกหรอของช่วงล่าง หากไม่ได้ออกแบบการติดตั้งอย่างถูกต้อง เช่น ถังใหญ่เกินไปจนท้ายรถ “ห้อย” หรือระยะห่างจากพื้นน้อยเกินไป ก็มีโอกาสทำให้ถังเกิดการชำรุดเสียหาย เมื่อต้องขับบนถนนขรุขระหรือมีน้ำท่วม ดังนั้น การเลือกถังที่เหมาะสมในการติดตั้ง เราต้องคำนวณน้ำหนักถัง พื้นที่รองรับ ประโยชน์ใช้งาน มีการออกแบบขายึดที่แข็งแรง และติดตั้งอย่างถูกต้องแน่นหนา

ส่วนที่ถามว่า ถังแบบไหนหนักกว่ากัน? มาดูความแตกต่างของน้ำหนักถังแคปซูลและถังโดนัท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตามขนาดที่ใหญ่ขึ้นครับ อย่างแรกถ้าลองเปรียบเทียบ น้ำหนักถังเปล่า ที่ขนาดเท่ากัน จะเห็นว่าถังโดนัทอาจหนักกว่าถังแคปซูลเล็กน้อย ประมาณ 1-3 กิโลกรัม เนื่องจากรูปทรงและโครงสร้าง ดังนี้

ถังแก๊ส lpg แต่ละขนาดมีน้ำหนักกี่กิโลกรัม?

• ถังแคปซูล:
  • ขนาด 36 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 13-14 กก.
  • ขนาด 42 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 15-17 กก.
  • ขนาด 48 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 18-19 กก.
  • ขนาด 58 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 21-22 กก.
  • ขนาด 65 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 24-25 กก.
• ถังโดนัท:
  • ขนาด 42 ลิตร น้ำหนัก ≈ 18-20 กก.
  • ขนาด 50-52 ลิตร  น้ำหนัก ≈  20-22 กก.
  • ขนาด 54-60 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 22-25 กก.
  • ขนาด 62-72 ลิตร  น้ำหนัก ≈ 25-30 กก.

หมายเหตุ: ถ้งแก๊ส LPG ในขนาดที่เท่ากันอาจมีน้ำหนักถังเปล่าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิต วัสดีที่ใช้ และมาตรฐานการผลิต เป็นต้น  

และถ้าเราลองเปรียบเทียบ น้ำหนักโดยรวมของถัง (หลังเติมแก๊สเต็มถัง) โดยคำนวณคร่าว ๆ จาก ถังขนาด 42 ลิตร + น้ำหนักของแก๊ส lpg ได้ดังนี้

• น้ำหนักแก๊ส lpg 1 ลิตร ประมาณ 0.5-0.55 กก. หรือ เฉลี่ยแล้วประมาณ 0.52 กก./ลิตร   
• ถังแก๊สขนาด 42 ลิตร เติมแก๊สได้ 80% ของความจุถัง (42 ลิตร x 0.8) เท่ากับ เติมแก๊สได้จริงประมาณ 33.6 ลิตร
• น้ำหนักแก๊ส lpg ที่เติมได้จริง (33.6 ลิตร x 0.52 กก./ลิตร) ≈ 17.5 กิโลกรัม 

ดังนั้น 

• ถังแคปซูล 42 ลิตร: ถังเปล่า (15-17 กก.) + แก๊ส lpg  (17.5 กก.) เท่ากับ น้ำหนักโดยรวม ≈ 32.5 – 34.5 กก.

• ถังโดนัท 42 ลิตร: ถังเปล่า (18-20 กก.) + แก๊ส lpg  (17.5 กก.) เท่ากับ น้ำหนักโดยรวม ≈ 35.5 – 37.5 กก. 

ทั้งนี้ แม้ว่าถังโดนัทจะดูหนักกว่า ประมาณ 2-3 กก. แต่ถังแคปซูลก็มีจุดอ่อนในการติดตั้งที่คุณต้องเสียพื้นที่เก็บสัมภาระ อีกอย่างอย่าลืมคิดถึง น้ำหนักยางอะไหล่ ที่หนักอีกประมาณ 15-35 กก. ดังนั้น การถอดยางอะไหล่ออก แล้วใส่ถังโดนัทแทน อาจทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถ ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างที่คิดครับ (หรือในบางกรณีอาจจะใกล้เคียงกัน)

ติดต่อสอบถามรายละเอียด

ข้อดีของการติดตั้งถังโดนัทขนาดใหญ่ขึ้น..คุ้มกว่าอย่างไร?  

อย่างที่บอกว่า ขนาดความจุของถังที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10 ลิตร อาจทำให้น้ำหนักโดยรวมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแทบไม่มีผลกับในการใช้งานมากนัก เมื่อเทียบกับ “ความคุ้มค่า” ที่ได้มากกว่า ทั้งความจุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เติมแก๊สได้เยอะกว่า รถวิ่งได้ระยะยางไกลกว่าเดิม และมันก็ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเติมแก๊สบ่อย ๆ 

การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตามขนาดถังแก๊ส  

ตัวอย่าง: หากคุณเปลี่ยนจาก ถังโดนัท 42 ลิตร เป็น 50-52 ลิตร เท่ากับ

• ความจุเพิ่มขึ้น ≈ 8-10 ลิตร 
• เติมแก๊สได้จริง ≈ 40-41.6 ลิตร (จาก 33.6 ลิตร) ซึ่งหมายถึงเพิ่มขึ้น ≈ 6.4-8 ลิตร
• น้ำหนักถังเปล่า เพิ่มขึ้น ≈ 2 กก. 
• น้ำหนักถังรวมแก๊ส เพิ่มขึ้น ≈ 5.33 – 6.16 กก.  

นี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างและคำนวณให้เห็นภาพคร่าว ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ดี น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระดับนี้มักไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการขับขี่หรือช่วงล่าง อีกอย่างรถยนต์ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักผู้โดยสารและสัมภาระเพิ่มเติมได้อย่างสบาย ๆ ดังนั้น นี่จึงถือเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความประหยัดคุ้มค่าที่คุณจะได้รับจากการใส่ถังขนาดใหญ่ขึ้นครับ

แล้วจะเลือกถังแบบไหนดี ถึงจะประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด??  

คำแนะนำวิธีการเลือกถังแก๊ส LPG 👉 คำตอบที่ดีที่สุดคือ  “รถจะเป็นผู้เลือกถัง” ดังนั้น ไม่ต้องคิดมากว่าควรเป็นถังแคปซูลหรือโดนัท ซึ่งเราสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับรถของลูกค้าได้ ส่วนเรื่องขนาดและน้ำหนักก็เช่นกันครับ เพราะถังแก๊สขนาดต่างกัน 1 ไซส์ น้ำหนักเพิ่มขึ้นแค่ราว ๆ 1-3 กก. ดังนั้น จะดีกว่าไหม? ถ้าติดตั้งถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่เติมแก๊สได้เยอะขึ้น ช่วยประหยัด และคุ้มค่าการใช้งานมากกว่า 

ส่วนราคาก็ต่างกันไม่มาก (เพิ่มขึ้นเล็กน้อย) เพราะด้วยขนาดถังและคุณภาพของวัสดุส่วนเสริมที่เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเพลทเหล็กที่หนาขึ้น การออกแบบโครง/ขายึดที่แข็งแรงแน่นหนา และมีการคำนวณ วัดระยะ ตำแหน่งติดตั้งอย่างเหมาะสม

สรุป: การเลือกว่าจะติดตั้ง ถังแก๊สโดนัท หรือ ถังแก๊สแคปซูล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ลักษณะการใช้งาน, พื้นที่เก็บสัมภาระ, งบประมาณ และรุ่นรถ เนื่องจากรถแต่ละรุ่นอาจเหมาะกับการติดตั้งถังแก๊สแต่ละประเภทแตกต่างกันไป ควรปรึกษาศูนย์ติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญ และสำคัญที่สุดคือ ควรเลือกติดตั้งกับร้านติดตั้งแก๊สหรือศูนย์บริการที่ได้รับรองโดยกรมการขนส่งทางบก ใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน (เช่น มอก.และมาตรฐาน ECE 67R-01) และติดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยช่างที่มีความชำนาญ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การเลือกขนาดและชนิดถังแก๊ส ควรพิจารณาจากรุ่นรถยนต์ของคุณเป็นหลัก   และควรปรึกษาอู่ติดตั้งแก๊สที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมและคุ้มค่าการใช้งานสูงสุด

ติดต่อสอบถามรายละเอียด

รีวิว ติดแก๊สตรงรุ่นรถ พร้อมขนาดถังแก๊สแนะนำ 👇  

ติดแก๊ส ถังโดนัท (หุ้มยาง) หงษ์ทองแก๊ส ดีกว่าอย่างไร?

จุดเด่นคือเรามีการออกแบบการเตรียมถังและการติดตั้งที่เป็น “เทคนิคเฉพาะ หงษ์ทองแก๊ส” เพื่อความปลอดภัยและคุ้ค่าการใช้งาน สามารถกันน้ำ กันสนิม เติมได้เยอะกว่า อายุการใช้งานเกิน 10 ปี เพิ่มความสะดวกในการตรวจภาพ

📌 กรองแก๊ส Certools F-750, Certools NF199

เพิ่มประสิทธิภาพการกรองขั้นสุด ตัวช่วยปกป้องการทำงานของระบบแก๊ส/เครื่องยนต์

📌 OXYHTECH ดีท็อกซ์เครื่องยนต์ทั้งระบบ ฟื้นฟูอัตราเร่งใน 1-1.30 ชม.

นวัตกรรมขจัดคราบเขม่าคาร์บอนที่สะสมภายในเครื่องยนต์ทั้งระบบ โดยไม่ต้องถอด/รื้อเครื่องยนต์ ทำได้ทั้งรถเบนซินและดีเซล

ติดต่อสอบถามรายละเอียด

ติดต่อสอบถามรายละเอียด

ติดต่อสอบถามรายละเอียด